อาการท้องร่วงที่เกิดขึ้นกับคุณนั้นเกิดมาจากเชื้อไวรัสไปจนถึงการแพ้แลคโตส มีสาเหตุหลายประการที่อาจอยู่เบื้องหลังอาการที่ไม่พึงประสงค์นี้ ซึ่งเป็นอาการที่สร้างความทรมานให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก แต่คุณสามารถหลีกเลี่ยงได้ เราได้นำสาเหตุบางประการที่พบได้บ่อยที่สุดของโรคท้องร่วงมาแนะนำกัน แทงหวยออนไลน์
1. แบคทีเรียและไวรัส
อาหารที่มีแบคทีเรียปนเปื้อน เช่น…อี. โคไล ซัลโมเนลลา และลิสเตอเรีย ทำให้คุณเป็นโรคอาหารเป็นพิษ ซึ่งมักทำให้เกิดอาการท้องร่วงที่เกิดจากไวรัส เช่น…โนโรไวรัสและโรตาไวรัส ซึ่งสามารถทำให้เกิดโรคกระเพาะลำไส้อักเสบจากเชื้อไวรัส ซึ่งทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้ แบคทีเรียหรือไวรัสที่ติดเชื้อมักตั้งรกรากที่เยื่อบุลำไส้ของคุณและปล่อยสารพิษออกมา สารพิษเหล่านี้ทำให้เยื่อบุลำไส้ของคุณหลั่งอิเล็กโทรไลต์และของเหลวในปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งส่งผลทำให้เกิดอาการท้องร่วง แบคทีเรียและไวรัสสามารถทำให้เกิดการอักเสบตามเยื่อบุลำไส้ ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการท้องร่วงได้เช่นกัน
2. โควิด-19
COVID-19 จะทำให้คุณมีอาการไข้และอาการทางระบบทางเดินหายใจ แต่ก็สามารถทำให้เกิดการรบกวนทางเดินอาหารได้เช่นกัน การวิจัยระบุว่าไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิด COVID-19 มีความเกี่ยวพันกับตัวรับเซลล์ที่มีอยู่ทั้งในปอดและส่วนต่าง ๆ ของระบบทางเดินอาหาร การอักเสบในปอดสามารถทำให้เกิดอาการในระบบทางเดินหายใจ และการอักเสบของทางเดินอาหารและอาจเป็นสาเหตุของอาการท้องร่วงที่หลาย ๆ คนเจอใน COVID-19
3. แพ้อาหารหรือแพ้อาหาร
การแพ้อาหารอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้ การแพ้อาหารเป็นผลมาจากการตอบสนองที่มากเกินไปของระบบภูมิคุ้มกันต่ออาหาร ในทางกลับกัน การแพ้อาหารมักเป็นผลมาจากความผิดพลาดในทางเดินอาหารในวิธีแปรรูปอาหาร การแพ้แลคโตสถือเป็นการแพ้อาหารทั่วไป ปกติแล้ว เอนไซม์ที่เรียกว่าแลคเตสจะย่อยสลายน้ำตาลแลคโตสเพื่อให้ลำไส้เล็กดูดซึมได้ แต่เมื่อมีการผลิตแลคเตสลดลงหรือเมื่อทำงานไม่ได้ผล แลคโตสในปริมาณที่มากเกินไปสามารถเข้าไปในลำไส้ใหญ่ ซึ่งจะถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ที่นั่น ซึ่งแบคทีเรียนี้ทำลายแลคโตสในลักษณะที่สร้างก๊าซไฮโดรเจนซึ่งส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดและท้องร่วง
4. ภาวะภูมิต้านตนเอง
โรคโครห์นและอาการลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผลเป็นภาวะภูมิต้านตนเองที่เกี่ยวข้องซึ่งส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารและอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงเรื้อรังได้ โรคโครห์นและอาการลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผลคือโรคลำไส้อักเสบ (IBD) ที่ทำให้เกิดการอักเสบในบางส่วนของทางเดินอาหาร การอักเสบนี้อาจรบกวนการดูดซึมสารอาหารและคาร์โบไฮเดรตและอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้
5. อาการลำไส้แปรปรวน (IBS)
IBS เป็นภาวะเรื้อรังที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วง ท้องอืด และท้องผูก โดยกลไกที่แน่นอนที่ทำให้ IBS ทำให้เกิดอาการท้องร่วงนั้นไม่แน่นอน จากข้อมูล IBS นั้นน่าจะเกิดจากหลายปัจจัย และสาเหตุของ IBS ของบุคคลหนึ่งอาจไม่เหมือนกับของอีกบุคคลหนึ่ง
โดยปัจจัยอาจมีตั้งแต่การเคลื่อนตัวของอาหารผ่านระบบทางเดินอาหาร ไปจนถึงการอักเสบในลำไส้ การติดเชื้อ หรือแม้แต่พันธุกรรม
6. ผลข้างเคียงของยา
การใช้ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น…อาการท้องร่วง ยกตัวอย่างเช่น…ยาปฏิชีวนะสามารถทำลายสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ของคุณ ซึ่งอาจทำให้ท้องเสียได้ ที่ร้ายแรงกว่านั้น ความไม่สมดุลนี้อาจนำไปสู่โอกาสที่แบคทีเรียจะเกิดมากเกินไป ยาลดกรดเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของยาที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาลดกรดที่มีแมกนีเซียมมีฤทธิ์เป็นยาระบาย
7. ปรสิต
การติดเชื้อปรสิตในลำไส้อาจนำไปสู่อาการท้องร่วง และที่แย่กว่านั้นคือ บางครั้งสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็ไปสู่อาการเรื้อรัง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น…สหรัฐอเมริกา ปรสิตที่มักทำให้เกิดอาการท้องร่วง ได้แก่…Cryptosporidium ซึ่งมักเรียกว่า crypto และ Giardia duodenalis หรือ Giardia
โดยส่วนใหญ่แล้วอาการท้องร่วงจากการติดเชื้อเฉียบพลันจะหายไปเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพยายามดื่มน้ำให้เพียงพอและเฝ้าระวังอาการไม่ให้ที่แย่ลงกว่าเดิม แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้คุณไปพบแพทย์ทันที